เห็ด “พระรอง” ของอาหาร เป็นวัตถุดิบแต่งเติมสีสันและรสชาติบนโต๊ะอาหารที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นอาหารสัญชาติตะวันตกหรืออาหารญี่ปุ่นก็สามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดี แต่ทว่า เห็ดนั้นยังมีสรรพคุณอีกหลายอย่างที่ยังไม่ค่อยมีใครรับรู้ ทั้งสรรพคุณด้านการป้องกัน รักษาโรคและด้านความสวยความงาม เห็ดบูนาชิเมจิสีขาวและเห็ดบูนาพีมีสรรพคุณช่วยลดคอเลสเตอรอลและระงับอาการโรคหลอดเลือดแข็งตัว ซึ่งเป็นสรรพคุณรักษาโรคเฉพาะที่เหมาะสำหรับคนวัยกลางคนเป็นอย่างยิ่ง ไม่นานมานี้ก็ยังมีรายงานวิจัยที่พิสูจน์ว่า เห็ดไมทาเกะมีสรรพคุณพิเศษทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและยังช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้ดีขึ้นอีกด้วย
สาเหตุการตายหลักของคนสมัยใหม่ที่มีพฤติกรรมการบริโภคโดยรับเอาอิทธิพลของชาติตะวันตกเข้ามามีอยู่ 3 โรค ที่เห็นได้อย่างชัดเจนอย่างแรก ได้แก่ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ (เช่น หัวใจวาย) และโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน เมื่อมีปริมาณคอเรสเตอรอลในกระแสเลือดมากเกิน ก็จะทำให้เกิดคราบไขมันเกาะอยู่ตามผนังหลอดเลือด ซึ่งหลังจากนั้นหลอดเลือดก็จะเกิดการอุดตัน เลือดก็จะก่อตัวเป็นลิ่มได้ง่ายขึ้น สุดท้ายแล้ว อาการต่างๆก็จะเผยออกมาให้รู้
การป้องกันที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด คือป้องกันอย่าให้เกิดการเกาะตัวของคราบไขมันที่ผนังเส้นเลือด ผลจากการวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้รู้ถึงประโยชน์สารพันของเห็ดโดยเฉพาะเห็ดบูนาชิเมจิและเห็ดบูนาพี ซึ่งเห็ดบูนาพี นอกจากจะมีลักษณะสีขาวนวลน่ารับประทานแล้วนั้น แท้ที่จริงแล้วยังมีคุณประโยชน์อนันต์ราวกับเป็น “เห็ดมหัศจรรย์” บนโลกใบนี้
สรรพคุณต่อต้านโรคหลอดเลือดแดงแข็งนี้ได้ถูกตีพิมพ์ในวารสารวิชาการด้านโภชนาการ Nutrition Research ของสหรัฐอเมริกา ฉบับเดือนพฤษภาคม ปี 2008 ได้ลงเนื้อหาเกี่ยวกับการวิจัยกับหนูทดลองที่เป็นโรคหลอดเลือดแข็งตัว โดยให้อาหารธรรมดากับหนูกลุ่มหนึ่งและให้อาหารผสมเห็ดบูนาพีกับหนูอีกกลุ่มหนึ่ง แล้ววัดค่าคราบไขมันที่เกาะอยู่ตามเส้นเลือด
หลังจากที่ทำการเลี้ยงหนูทดลองดังด้วยวิธีที่กล่าวเป็นเวลา 10 สัปดาห์ ก็ได้ทำการวัดค่าความเข้มข้นของคอเรสเตอรอลในน้ำเหลืองและคราบไขมันที่เกาะอยู่บริเวณผนังเส้นเลือด ผลลัพธ์ก็คือหนูกลุ่มที่ให้อาหารผสมเห็ดบูนาพีมีปริมาณความเข้มข้นของคอเรสเตอรอลในน้ำเหลืองและคราบไขมันที่เกาะอยู่บริเวณผนังเส้นเลือดลดลงอย่างเห็นได้ชัด
สุโค่ยย !!! บูนาพีจัง
สุโค่ยย !!! บูนาพีจัง
ทางฝั่งไมทาเกะก็ไม่ได้แพ้บูนาพีสักนิดเลย ทราบหรือไม่ว่าเห็ดไมทาเกะมีประโยชน์ทั้งช่วยคลายเคลียดและฟื้นฟูสภาพผิวได้ด้วย
ความเครียดจากสิ่งรอบข้างที่สะสมเพิ่มขึ้นของคนในยุคปัจจุบันได้ส่งผลต่อสุขภาพผิวโดยไม่รู้ตัว เช่น ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวแห้งหยาบกร้าน ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า บางครั้งถึงกับทำให้ผิวหนังอักเสบเนื่องจากภูมิแพ้ได้ด้วย จากผลวิจัยเมื่อไม่นานมานี้ได้เผยข้อเท็จจริงให้รู้ว่า เห็ดไมทาเกะนั้นยังมีสรรพคุณช่วยฟื้นฟูสภาพผิวพรรณและเสริมเพิ่มความงามด้วย
ดัชนีตัวเลขการไหลเวียนโลหิตในผิวหนังชั้นนอกและความสามารถในการฟื้นฟูสภาพผิวของกลุ่มหนูทดลองที่ป่วยเป็นโรคเครียด ซึ่งเลี้ยงด้วยอาหารผสมกับแป้งเห็ดไมทาเกะนั้นสูงกว่ากลุ่มหนูทดลองที่เลี้ยงด้วยแค่อาหารธรรมดา
สุโค่ยยย !!! ไมทาเกะจัง
สุโค่ยยย !!! ไมทาเกะจัง
นอกจากนี้ เห็ดไมทาเกะยังมีวิตามิน D อยู่เป็นจำนวนมากจนถือว่าเป็นคุณสมบัติเด่นเฉพาะตัวเลยก็ว่าได้ ถ้ารับประทานเห็ดไมทาเกะพร้อมกับแคลเซียม ร่างกายจะสามารถดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น เป็นส่วนที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ไม่เพียงแค่มีสรรพคุณป้องกันโรคกระดูกพรุนที่ผู้หญิงมักจะเป็นกัน แต่ยังมีส่วนสำคัญในการช่วยรักษาและเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายอีกด้วย
น่าทึ่งมากกับสรรพคุณที่น่าอัศจรรย์ของบรรดา “เห็ด” เหล่านี้ ครั้งหน้าเราจะมานำเสนอเมนูอร่อยเด็ดแบบเห็ดๆ ให้ทุกคนได้ลองทำกันนะครับ !
ทีมา บทความนี้นำเสนอโดยกองบรรณาธิการแองเกิ้ล เรื่องราวเกี่ยวกับญี่ปุ่นที่จะทำให้ผู้อ่านชาวไทยที่รักญี่ปุ่นได้รับทั้งสาระ เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม และความสนุกตื่นเต้นไปพร้อมๆกัน
บริษัท โอพีซี จำกัด 22/75 หมู่ 6 ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร 74000
โทร:
อีเมล: 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น